บัลเบร์เด้ขอโทษ แต่บียาร์เรอัลไม่ยอมประณาม

การแข่งขันที่รุนแรงระหว่างทีมจากลา ลีกาอย่างเรอัล มาดริด และบียาร์เรอัล เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อเฟเดริโก บัลเบร์เด้ มิดฟิลด์ดาวรุ่งชกหน้าอเล็กซ์ บาเอน่า ผู้เล่นเรือดำน้ำสีเหลืองเข้าที่หน้าหลังจบการแข่งขัน ในขณะที่มีการเรียกร้องให้ Valverde ถูกลงโทษทางวินัยสำหรับการกระทำของเขา บียาร์เรอัลได้ตัดสินใจที่จะไม่ประณามเขาหรือสโมสรของเขา แต่จะยืนหยัดเคียงข้างเพื่อนร่วมทีมอายุน้อยของพวกเขา ซึ่งปกป้องตัวเองด้วยคำพูดและหมัดเมื่อเผชิญหน้าโดยอุรุกวัย

แถลงการณ์ของบียาร์เรอัล

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บียาร์เรอัลออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า “บียาร์เรอัลสนับสนุนและจะสนับสนุนบาเอน่าในสถานการณ์นี้ เราเคารพการตัดสินใจของเขาในฐานะบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าเขาจะตัดสินประณาม Valverde หรือไม่ก็ตาม สโมสรจะไม่กล่าวโทษ Real Madrid ในเรื่องนี้” แถลงการณ์กล่าวต่อไปว่า “Baena ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนทั้งจากความก้าวร้าวที่มีต่อเขา ถูกกล่าวถึงแรงจูงใจสมมุติที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี สิ่งที่ Baena ไม่รู้และเราเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องของเรา”

คำขอโทษของ Valverde

ในขณะเดียวกัน Valverde ได้ออกมาขอโทษสาธารณะต่อ Baena ผ่านทาง Twitter และขอบคุณข้อความสนับสนุนเหล่านั้นจากเพื่อนร่วมทีม เพื่อน และครอบครัว นอกจากนี้เขายังปฏิเสธข้อกล่าวหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่มาของการทะเลาะวิวาท “ทั้งหมดที่ฉันพูดได้คือมันไม่เป็นไรที่จะใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม” อุรุกวัยกล่าวอย่างเป็นทางการ

เรอัล มาดริดตอบกลับ

นอกจากนี้ เรอัล มาดริด ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนหลังจากนั้นไม่นาน โดยอ้างถึงการไม่ยอมรับและประณามการกระทำดังกล่าวหากข่าวลือเป็นจริง แถลงการณ์ระบุว่า “เรอัล มาดริด ออกห่างจากพฤติกรรมรุนแรงหรือพฤติกรรมที่ขัดต่อหลักการของการเล่นที่ยุติธรรมและการเคารพในหมู่นักกีฬาต่อสาธารณชน” ฝ่ายเมืองหลวงแสดงการปฏิเสธอย่างแข็งขันต่อพฤติกรรมประเภทนี้ และกระตุ้นให้ทีมของพวกเขายอมรับ ค่านิยมที่ปลูกฝังในสถาบันของพวกเขาตลอดการเป็นตัวแทนของคนผิวขาว

บทสรุป

ในตอนท้ายของวัน บียาร์เรอัลดึงเรื่องดราม่าออกจากสมการและยืนเคียงข้างบาเอนา ในขณะเดียวกันก็ละเว้นจากการกระโดดไปสู่บทสรุป ไม่ว่าพวกเขาจะรับผิดชอบ Valverde หรือ Real Madrid หรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการตอบสนองที่รวดเร็วของพวกเขาก็น่ายกย่อง ในปัจจุบัน แม้ว่าข้อเท็จจริงเบื้องหลังยังไม่ชัดเจน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนแน่นอน นั่นคือทัศนคติแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสนามฟุตบอล ห้องล็อกเกอร์ หรือที่ใดก็ตามในบริเวณใกล้เคียง